แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฮวงจุ้ย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฮวงจุ้ย แสดงบทความทั้งหมด

ฮวงจุ้ยกับการจัดวางตู้ปลา

ฮวงจุ้ยตู้ปลา

ฮวงจุ้ยตู้ปลา

ตามความหมายของฮวงจุ้ยนั้น หมายถึง หากคุณมีการจัดวางตำแหน่งภูเขาหรือของหนัก และการ จัดวางตำแหน่งของแอ่งน้ำบ่อปลา หรือน้ำพุที่ถูกทิศทางตามชัยภูมิแล้ว คุณก็จะอุดมไปด้วยบารมีและ โชคลาภ เงินทอง ไหลมาเทมาไม่ขาดสายนั่นเอง
ตามความหมายของฮวงจุ้ยนั้น หมายถึง หากคุณมีการจัดวางตำแหน่งภูเขาหรือของหนัก และการ จัดวางตำแหน่งของแอ่งน้ำบ่อปลา หรือน้ำพุที่ถูกทิศทางตามชัยภูมิแล้ว คุณก็จะอุดมไปด้วยบารมีและ โชคลาภ เงินทอง ไหลมาเทมาไม่ขาดสายนั่นเอง


ในที่นี้ "ภู" หมายถึง ภูเขา หรือของหนัก เช่น ตู้ โต๊ะ เตียง นั่นเอง ส่วน "น้ำ" หมายถึง โชคลาภ เงินทอง ดังนั้น ถ้าบ้านอยู่อาศัย หรือที่ทำงาน ของคุณมีน้ำอยู่ในตำแหน่งหรือทิศทางที่ดีก็จะช่วยเสริม ประโยชน์ ให้แก่คุณทั้งทางด้านการเงิน ธุรกิจ การค้า หรือโชคลาภ ที่จะหมุนเวียนเข้ามาสู่คุณไม่ ขาดสายแน่นอน
หากเรามาดูกันตามลักษณะชัยภูมิของอาคารบ้านเรือนแล้วล่ะก้อ บริเวณด้านหน้าของอาคารควร เป็นตำแหน่ง หยาง ซึ่งเหมาะกับการวางตำแหน่งตู้ปลา บ่อน้ำ น้ำพุ หรือน้ำตก ส่วนบริเวณด้านหลังของ อาคารบ้านเรือน ควรเป็น ตำแหน่ง หยิน ซึ่งเหมาะกับการวางเฟอร์นิเจอร์หรือต้นไม้ เป็นต้น
ตามหลักการตรวจเช็คชัยภูมิทางฮวงจุ้ยนั้น เราจะต้องหาให้ได้ก่อนว่า บริเวณอาคาร บ้านเรือน นั้นๆ ตำแหน่งของกระแสชี่อยู่ ณ จุดใด แล้วจะตั้งตู้ปลาไว้ตรงจุดนั้น เพื่อเก็บกระแสชี่ หากมีการศึกษา เจาะลึกลงไปในรายละเอียดก็จะต้องมีการคำนวณกันถึงตำแหน่งตรงที่ "อ๋วง" มาวางตำแหน่งน้ำ เพื่อกระตุ้นโชคลาภ เป็นต้น

แต่เราจะไม่นำมากล่าวกันในรายละเอียด ณ ที่นี้ ขอเพียงให้คุณทราบว่าขณะนี้เราอยู่ในยุค 7 หรือเรียกกันตามภาษาฮวงจุ้ยว่า "ยุคล่าง" ดังนั้น ตำแหน่งของน้ำ ควรจะอยู่ในทิศทาง ของยุคบน ซึ่งเหมาะสำหรับการตั้งตู้ปลา น้ำตก บ่อน้ำ และน้ำพุ และตำแหน่งของภูเขา/ลม ควรอยู่ในยุค ล่าง ซึ่งสรุปได้ดังนี้

  • ตำแหน่งที่เหมาะสมกับการวางน้ำ ได้แก่ ทิศเหนือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศตะวันออก และทิศ ตะวันออกเฉียงใต้
  • ตำแหน่งที่เหมาะสมกับการวางภูเขา/ลม ได้แก่ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศตะวันตกทิศตะวัน ออกเฉียงเหนือ และทิศใต้
คราวนี้เรามาศึกษากันต่อว่า เมื่อได้ตำแหน่งการวางตู้ปลา หรือ

  • ตำแหน่งน้ำที่เหมาะสมแล้ว เราควรเลี้ยงปลาจำนวนกี่ตัวจะมีผลกระทบต่อการจัดวางฮวงจุ้ย หรือส่งเสริมเราได้มากน้อยแค่ไหน ในฉบับนี้จะได้บอกเล่ากัน ให้ทำเป็นสูตรสำเร็จสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลามากนักที่จะศึกษาศาสตร์พวกนี้ อย่างละเอียด แต่ท่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เลย สรุปได้ดังนี้
  • กรณี ตู้ปลาวางอยู่ทิศตะวันออกหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศของธาตุไม้ ท่านควรเลี้ยงปลาสีดำ 1 ตัว กับปลาสีขาว 6 ตัว เพราะเลขทั้งสองเป็นเลขเกี่ยวกับธาตุน้ำ (น้ำก่อเกิดไม้)
  • กรณีตู้ ปลาวางอยู่ทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศของธาตุน้ำ ท่านควรเลี้ยงปลา 4 ตัว หรือ 9 ตัว เพราะเลขทั้งสองเป็นเลขเกี่ยวกับธาตุทอง (ทองก่อเกิดน้ำ)
  • กรณี ตู้ปลาวางอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศของธาตุดิน ท่านควรเลี้ยงปลา 2 ตัว หรือ 7 ตัว เพราะเลขทั้งสองเป็นเลขเกี่ยวกับธาตุไฟ (ไฟก่อเกิดดิน)

ด้วยหลักการเพียงง่ายๆ เท่านี้ ท่านก็สามารถมีตู้ปลาที่สวยงามมาประดับบ้านเรือน และสำนักงาน ได้อย่างถูกต้องตามหลักชัยภูมิ และเกื้อหนุนดวงชะตาให้พบแต่โชคลาภ และความสำเร็จได้ตลอดไป


ขอบคุณข้อมูลจาก www.kapank.com
http://horoscope-fengshui.blogspot.com

ฮวงจุ้ยที่ดีสำหรับห้องนอน

ห้องนอน


ฮวงจุ้ยที่ดีสำหรับห้องนอน

สำหรับ บทความนี้เราจะให้ความสำคัญกับการจัดห้องนอนให้ถูกตามหลักฮวงจุ้ยเพราะห้อง นอนนั้นเป็นห้องที่เราใช้ชีวิตอยู่มากกว่าครึ่งหนึ่งของห้องทั้งหมดในบ้าน ดังนั้นหากเราต้องการให้ที่พักอาศัยของเรามีฮวงจุ้ยที่ดี ห้องนอนจึงเป็นห้องที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยรายละเอียดของฮวงจุ้ยห้องนอนที่ดีมีดังต่อไปนี้
1. ตำแหน่งเตียง หากเราสามารถจัดวางเตียงนอนได้อย่างถูกหลักฮวงจุ้ย จะทำให้เราสามารถนอนหลับได้สนิท ไม่ถูกรบกวน

  • จากสภาวะภายในห้องนอน เป็นที่มาของการพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดีไม่เจ็บป่วยง่าย มีทั้งสุขภาพกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตที่สดใส โดยตำแหน่งเตียงที่ดีนั้นมีดังต่อไปนี้
  • ไม่อยู่ตรงกับประตูห้องนอนและประตูห้องน้ำโดยตรง เพราะหากเตียงอยู่ตรงประตูพอดี จะทำให้ได้รับการรบกวนเมื่อมีคนเปิดประตูห้องนอนและห้องน้ำดังกล่าว เป็นที่มาของการรบกวนการนอน หากจำเป็นต้องตั้งเตียงในตำแหน่งดังกล่าว ให้หาฉากกั้นมาบังไว้
  • อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นประตู เพราะหากเราหันหลังให้ประตู จะทำให้ตกใจเวลาที่มีคนเปิดประตูห้องนอนเข้ามา จะทำให้เป็นคนที่ขี้ระแวงและตกใจง่าย หากจำเป็นต้องตั้งเตียงในตำแหน่งดังกล่าว ให้หากระจกเงามาวางในตำแหน่งที่สะท้อนมองเห็นประตู
  • ไม่วางหัวเตียงนอนพิงผนังด้านที่ติดประตูห้องนอนและประตูห้องน้ำ เพราะทุกครั้งที่มีการเปิดประตูห้องนอนและห้องน้ำ จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนบริเวณผนังดังกล่าวและจะรบกวนการนอนของเราได้
  • ควรนอนหันหัวเข้าหากำแพง หรือหากเป็นหน้าต่างควรมีม่านชนิดที่กันแสงได้ดี เพื่อไม่ให้มีแสงสว่างมารบกวนการนอนได้
  • ไม่ควรนอนใต้คาน, ใต้ขอบฝ้าหลุม หรือ ใต้แอร์ เพราะจะทำให้กระแสอากาศกดทับบริเวณนั้นมากเป็นพิเศษ เป็นที่มาของความเจ็บป่วยและกดดัน หากจำเป็นต้องนอนจริงๆ ให้หาโคมไฟโลหะแสตนเลสรูปทรงโค้งมนมาตั้งไว้ในตำแหน่งตรงกับคานเพื่อให้ช่วยกระจายกระแสอากาศออกไป


ภาพแสดงการวางเตียงที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย (ไม่ตรงฝ้าหลุม, คาน,ไม่นอนใต้แอร์, ไม่ตรงประตู, ไม่ติดผนังด้านเดียวกับประตู)
(ภาพจาก www.homeimprovementplace.com)




ภาพแสดงลักษณะเตียงนอนที่เสมือนมีคานกดหัวนอน (ภาพจาก www.eichlerforsale.com)

2. ตำแหน่งแอร์ ไม่ควรทับตัวผู้นอน โดยเฉพาะการอยู่บนหัวผู้นอน เพราะนอกจากจะเป็นเหมือนลักษณะคานกดหัวแล้ว ลมเย็นจากแอร์อาจทำให้ป่วยหรือเป็นหวัดได้ง่าย ตำแหน่งแอร์ที่ดีควรอยู่ที่ปลายเท้าหรือด้านข้างของผู้นอน ห่างออกไปอย่างต่ำ 1-2 เมตร
3. ตำแหน่งประตูห้องนอน ไม่ควรอยู่ด้านหลังเตียงนอน หรือ ตรงกับเตียงพอดี การแก้ไขให้สามารถดูได้ที่หัวข้อการวางตำแหน่งเตียง โดยตำแหน่งประตูห้องนอนที่ดีที่สุดควรอยู่เยื้องกับเตียงและให้ผู้นอนสามารถมองเห็นได้
4. ตำแหน่งโต๊ะทำงาน หากต้องการมีโต๊ะทำงานในห้องนอน ควรอยู่ในตำแหน่งที่อยู่ใกล้หน้าต่างเพื่อให้สามารถมองออกไปได้กว้างไกล เป็นที่มาของการมีจินตนาการที่ดี โดยหากดีที่สุดให้ตั้งโต๊ะในตำแหน่งที่มองเห็นประตูห้องนอน และไมอยู่ใต้แอร์ คาน หรือ ฝ้าหลุมด้วย
5. ไม่ควรมีโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือ ตู้เย็น ในห้องนอน เพราะจะเป็นอุปกรณ์ที่รบกวนการนอนของท่านได้ 

ปรับแต่งฮวงจุ้ยตามหลักธาตุทั้ง 5



ฮวงจุ้ยตามหลักธาตุทั้ง 5 เพื่อท่านผู้อ่านนำไปพลิกแพลงปรับแต่งได้ด้วยตนเอง
วิชาฮวงจุ้ยว่าด้วยการบริหารพลังงานของชาวจีนนั้น มีการแบ่งสรรพสิ่งบนโลกนี้เป็นธาตุต่างๆทั้งหมด 5 ธาตุ ได้แก่ ไม้, ไฟ, ดิน, ทอง และน้ำ โดยมีวัฏจักรการก่อเกิดธาตุทั้งห้า ดังนี้


จากแผนภูมิที่แสดงความสัมพันธ์ของธาตุทั้ง 5 จะเห็นว่าจะมีการก่อเกิดซึ่งกันและกัน และในแต่ละทิศเราก็จะมาดูว่าทิศใดดีหรือร้าย หากทิศที่ดี เราใช้หลักการกระตุ้น หมุนเวียนถ่ายเทพลังงาน ใช้หลักการเคลื่อนไหว ในบริเวณที่ดี ให้พลังงานที่ดีได้มีการหมุนเวียน หรือส่งพลังจากทิศนั้นออกมาบ่อยๆ ส่วนทิศไหนที่ไม่ดี เราก็พยายามทำให้พลังงานหยุดนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว ปิดทึบ หรือเอาไว้วางของหรือตู้หนักๆเป็นต้น นี่คือ หลักประการแรก


ประการที่สองเราจะใช้หลักการก่อเกิด ถ่ายเทของพลังงานธาตุในทิศนั้น ถ้าทิศที่ดี เราก็จะหาธาตุที่มาก่อเกิดทิศดีให้มีพลังงานที่ดีมากขึ้น ส่วนทิศไม่ดี เราก็จะใช้ธาตุที่มาถ่ายเทพลังงานไม่ดีให้มีกำลังน้อยลงไม่ส่งผลกับเรามากนัก โดยหลีกเลี่ยงธาตุที่มาก่อเกิดพลังร้ายนั้นๆการวิเคราะห์ตามธาตุต่างๆ จะมีทั้งเรื่องของแสง สี ประเภทของวัสดุ และรูปทรงต่างๆ สรุปตามตารางดังนี้
ธาตุ สี รูปทรง ลักษณะพลังงาน ตัวอย่างวัสดุที่ใช้แทนธาตุต่างๆ
ดิน น้ำตาล, เหลือง ส้ม สี่เหลี่ยม หนักแน่นมั่นคง รูปปั้น, เซรามิค, กระถางดิน
ทอง ขาว, เงิน, ทอง ทรงกลม, โค้ง หมุนเกลียว, ทรงกลม, ใบมีดเชือดเฉือน โลหะทุกชนิด, กระดิ่งโลหะ, สแตนเลส
น้ำ ฟ้า, น้ำเงิน, ดำ คลื่น, รูปทรงที่ต่อเนื่องซ้ำๆ เปลี่ยนแปลงได้,
ต่อเนื่องซ้ำๆ,ไหลลงล่าง น้ำนิ่ง, ตู้ปลา, น้ำพุ, ภาพวาดสีน้ำเงิน
ไม้ เขียว ทรงสูง พุ่งสูงขึ้น ต้นไม้, เฟอร์นิเจอร์ไม้, ชั้นวางของทรงสูง
ไฟ แดง, ชมพู, ม่วง สามเหลี่ยม แผ่กระจาย โคมไฟสีแดง, ป้ายไฟ, จุดเทียนอโรมา


ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การปรับแต่งฮวงจุ้ย ก็คือการบริหารพลังงานรอบตัวให้เหมาะสม โดยดึงเอาพลังดีมาทำงานและพลังร้ายให้หยุดนิ่ง ถ้าผู้ที่เข้าใจวิชาฮวงจุ้ยที่แท้จริงแล้วจะไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ฮวงจุ้ยที่มีขายในท้องตลาดก็ได้ โดยสามารถนำเอาวัสดุต่างๆ หรือเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน มาปรับใช้งานแทนก็ได้เช่นกัน คนทั่วไป หรือลูกค้าที่เข้ามาในร้านก็ไม่รู้ว่าตั้งไว้เพื่อปรับฮวงจุ้ย นำมาใช้งานได้อย่างไม่ต้องเกรงว่าร้านค้าข้างๆจะรู้ตัว เช่น มุมใดต้องการธาตุไฟ ผมก็แนะนำให้ร้านค้านั้นแปะโปสเตอร์สินค้าที่พื้นหลังสีแดง ชมพูเป็นส่วนใหญ่ เป็นต้น เห็นมั๊ยครับ การปรับแต่งฮวงจุ้ยง่ายนิดเดียว ของเพียงมีเข้าใจหลักของธาตุทั้ง 5 เราก็เอามาพลิกแพลงปรับแต่งได้ง่ายๆโดยใช้วัสดุรอบๆตัวเรานี้แหล่ะครับ ไม่จำเป็นต้องใช้เสือคาบดาบ, ยันต์แปดทิศ, สิงโต หรือมังกร หรืออีกหลากหลายวัสดุที่มีขายทุกวันนี้ เรียกว่า ถ้าซื้อมาปรับหมดในบ้านคงเหมือนศาลเจ้ามากกว่าที่จะเหมือนบ้านคนอยู่อาศัยทั่วไป


มีข้อยกเว้นนิดนึงในเรื่องของการตั้งน้ำพุ เพราะถึงแม้ว่าน้ำพุจะเป็นธาตุน้ำก็ตาม แต่น้ำมีคุณสมบัติพิเศษคือ เมื่อน้ำหยุดนิ่ง จะเป็นการเก็บกักพลังงาน สามารถเอาไว้ใช้สลายพลังธาตุทองได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อน้ำมีการเคลื่อนไหว เช่น น้ำพุ น้ำตก จะสามารถกระตุ้นพลังงานทิศต่างๆออกมาได้ดีเช่นกัน ดังนั้นกรณีนี้ ถึงแม้ว่าทิศตะวันออกจะเป็นโชคลาภที่ต้องการธาตุไฟ มาเสริม แต่เราก็สามารถตั้งน้ำพุ หรือน้ำตกในทิศโชคลาภได้เช่นกัน