ตำนานเทพเจ้ากรีก



ตำนานเทพเจ้ากรีก


            อดีตกาล ไม่อาจนับเวลาได้ ย้อนหลังไปถึงยุคก่อนกำเนิดโลก สรรพสิ่งทั้งหลายยังเป็นเพียงความวุ่นวาย ที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่มหึมาจนหาขอบเขตมิได้ มีแต่ความมืดมิด ปราศจากรูปใดๆ เรียกว่า เคออส (Chaos)


กาลเวลาล่วงมาอีกนานนับกัปไม่ถ้วน โลกพิภพจึงผุดขึ้นเป็นผืนแผ่นกว้างใหญ่ไพศาล เรียกว่า จีอา (Gaea) ซึ่งถือว่าเป็นจอมมารดาของสรรพสิ่งทั้งมวลเพราะถือกำเนิดขึ้นก่อนใคร ผืนแผ่นดินนี้มีอิทธิฤทธิ์บันดาลให้เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และทำให้เกิดพายุได้



ต่อมา จีอาก็บันดาลให้เกิดแผ่นฟ้าที่ดาษดาไปด้วยดวงดาวขึ้นปกคลุมเหนือผืนแผ่นดิน เรียกว่า อูรานอส (Ouranos) ซึ่งถือเป็นจอมบิดาของสรรพสิ่งทั้งปวงคู่กับจอมมารดาจีอา และบันดาลให้เกิดขุมนรกที่มืดมิดและน่ากลัว เรียกว่า ทาร์ทะรัส (Tartarus)


กาลเวลาผ่านมาอีกนับกัปไม่ถ้วน จอมมารดาจีอาและจอมบิดาอูรานอส จากที่เดิมเป็นเพียงธรรมชาติผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ ก็ค่อยๆ กลายเป็นจอมเทพผู้ทรงอำนาจคู่แรก ทั้งสองร่วมกันเถลิงอำนาจอยู่ ณ สวรรค์โอลิมปัส ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงตระหง่านตั้งอยู่กลางแผ่นดินสูงขึ้นไปจนสุดชั้นฟ้า


ต่อมาไม่นานจอมมารดาจีอาก็ให้กำเนิดเทพบุตร 6 องค์ คือ โอเซียนัส (Oceanus) ซีอัส (Coeus) ครีอัส (Creus) ไฮเพอร์เรียน (Hyperion) ไอแอพิทัส (Iapetus) และโครนัส (Cronus) และให้กำเนิดเทพธิดา 6 องค์ นามว่า เธีย (Thea) รีอา (Rhea) ธีมิส (Themis) ธีทิส (Thetis) เนโมซินี (Nemosyne) และฟีบี (Phoebe)


เทพบุตรและเทพธิดาทั้ง 12 องค์นี้มีขนาดร่างกายใหญ่มหึมา เรียกว่า ไทแทน (Titan) หรือ ไจแกนทีส (Gigantes)


ด้วยขนาดร่างกายที่ใหญ่โตนี้เอง ทำให้จอมบิดาอูรานอสหวาดหวั่น จึงได้จับเทพไทแทนทั้งหมดโยนลงไปขังไว้ในตรุทาร์ทะรัส (Tartarus) ซึ่งเป็นขุมนรกส่วนที่ลึกที่สุดในยมโลกที่มืดมิด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เทพบุตรหรือเทพธิดาองค์ใดใช้พลังเป็นปฏิปักษ์กับจอมบิดาได้


ต่อมา จอมมารดาจีอาก็ให้กำเนิดโอรสที่ดุร้าย แถมมีร่างกายที่แปลกประหลาดมากยิ่งขึ้นไปอีก คือ เป็นยักษ์ 50 หัว 100 แขน จำนวน 3 ตน คือ คอตทัส (Cottus) เบรียรูส (Briareus) และไกจีส (Gyges)


อูรานอสรู้สึกกลัวในความดุร้ายของยักษ์ 50 หัวพวกนี้ จึงจับพวกเขาโยนลงไปขังในตรุทาร์ทะรัสอีก


ต่อมาจอมมารดาจีอาก็ให้กำเนิดโอรสเป็นยักษ์ตาเดียว เรียกว่า ไซคลอปส์ (Cyclops) อีก 3 ตน มีนามตามลำดับว่า ฟ้าลั่น-บรอนทีส (Brontes) ฟ้าแลบ-สเทอโรพีส (Steropes) และแสงสว่างวาบ-อาจีส (Arges)


จอมบิดาอูรานอสก็จับไซคลอปส์ทั้งสามโยนลงไปขังไว้ในตรุทาร์ทะรัสอีกเช่นเดียวกัน


ด้วยแสงสว่างจากไซคลอปส์ทั้งสาม ในตรุทาร์ทะรัสที่มืดมิดจึงพอมองเห็นกันได้ เมื่อเริ่มมองเห็นแสงเทพไทแทนก็เริ่มคิดหาทางเป็นไทแต่ก็หาวิธีออกจากตรุทาร์ทะรัสไม่ได้


ฝ่ายจอมมารดาจีอานั้นรู้สึกไม่พอใจที่อูรานอสจับลูกๆ ลงไปขังไว้ในตรุทาร์ทะรัสทั้งหมด แต่แม้จะห้ามปรามอย่างใรอูรานอสก็ไม่ฟัง จอมมารดาจีอาจึงลงไปที่ตรุทาร์ทะรัสและยุยงลูกๆ ให้ร่วมคิดกันแย่งอำนาจจากบิดาให้จงได้


แม้เทพไทแทนจะอยากเป็นอิสระจากตรุทาร์ทะรัส แต่เมื่อคิดถึงการต้องไปต่อสู้แย่งชิงอำนาจจากจอมบิดาอูรานอสก็ไม่มีใครกล้าพอ ยกเว้นโครนัสน้องสุดท้องคนเดียวที่กล้าจะทำตามคำยุยง จอมมารดาจีอาจึงช่วยโครนัสให้หลุดจากพันธนาการ และมอบเคียวให้เป็นอาวุธเพื่อไปสู้กับจอมบิดา


ตกกลางคืนโครนัสก็ไปแอบรอท่าอยู่ใต้เตียงอูรานอสกับจีอา เมื่ออูรานอสหลับ โครนัสก็ถือเคียวอาวุธคู่มือเข้าจู่โจมจอมบิดาอูรานอสโดยไม่ให้รู้ตัว อูรานอสกำลังน้อยกว่าแถมไม่รู้ตัวมาก่อนทำให้เสียเปรียบ ยิ่งต่อสู้กันนานไปก็ยิ่งได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลทั่วร่าง เลือดของอูรานอสแต่ละหยดเมื่อตกต้องผืนแผ่นดินก็กลายเป็นยักษ์ ภูติอีรินิส และพรายน้ำ จำนวนมาก


ในที่สุดอูรานอสก็พ่ายแพ้และถูกโครนัสใช้เคียวตัดอัณฑะขว้างทิ้งลงทะเลและยึดอำนาจบนเขาโอลิมปัสไปได้ ก่อนจะสิ้นชีวิตอูรานอสได้กล่าวสาปแช่งโครนัสว่าวันหน้าขอให้โครนัสถูกลูกของตนเองแย่งชิงอำนาจไปเหมือนกับที่ตนเองถูกกระทำ


โครนัสจัดแจงปล่อยเทพไทแทนทั้งหมดออกจากขุมนรกทาร์ทะรัส ซึ่งเทพไทแทนทุกองค์รู้สึกปิติยินดีในอิสรภาพเป็นอย่างยิ่งจึงพร้อมใจกันยกให้โครนัสเป็นเทพบิดาปกครองเทพทั้งมวลอยู่ที่เขาโอลิมปัส


ตำนานเทพเจ้ากรีก



ตำนานเทพเจ้ากรีก-โรมัน คือ ศาสตร์หรือวิชาหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับตำนานหรือเรื่องเล่าขานต่าง ๆ ของเหล่าเทพเจ้าของชาวกรีก บางทีเราเรียกรวมกันว่า เทพเจ้ากรีก-โรมัน เพราะชาวโรมันรับอารยธรรมกรีกมาใช้แล้วเอาความเชื่อเรื่องเทพเจ้ามาด้วย เพียงแต่ชาวโรมันเปลี่ยนชื่อของบรรดาเทพเจ้ากรีกให้เป็นชื่อของตน แต่ตำนานความเป็นมาของเทพแต่ละองค์ยังคงเหมือนของกรีกทุกประการ

เทพเจ้ากรีก-โรมันมีมากมายหลายสิบองค์และเหล่าเทพบางองค์มีความสัมพันธ์กับทั้งเทพและมนุษย์ จึงเกิดทายาทเป็นทั้งมนุษย์และอมนุษย์อีกนับไม่ถ้วน เราสามารถเขียนแผนภูมิต้นไม้หรือ Family Tree ของ เทพเจ้าได้ แผนภูมิต้นไม้นี้แสดงถึงต้นกำเนิดของเทพแต่ละองค์ว่ามาจากไหน ใครเป็นผู้ให้กำเนิดและยังโยงต่อไปได้อีกว่าใครเป็นลูกหลาน แล้วโยงต่อไปอีกเรื่อยๆ ไม่มีจุดจบดังรากไม้ จึงมีอีกวิชาที่เกิดขึ้นคือ Genealogy of Greek-Roman Mythology เป็นการศึกษาแผนภูมิต้นตระกูลของเหล่าเทพและบรรดาทายาทของปวงเทพ

สันนิษฐานของที่มาของการเกิดเทวตำนานเทพเจ้ากรีก-โรมัน

อาจเป็นเพราะชาวกรีกโบราณพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองว่าทำไมฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือเหตุใดจึงมีเสียงสะท้อนจากถ้ำเมื่อเราส่งเสียง หรือ ฯลฯ นั่นเพราะความกลัวปรากฏการณ์ธรรมชาติจึงพยายามหาเหตุผลและชาวกรีกชอบฟังนิทานเรื่องเล่าปรัมปรา, ชอบแต่งโคลงกลอน จึงรักการขับลำนำและดีดพิณคลอไปด้วยจึงทำให้การขับลำนำเป็นที่นิยม เล่ากันว่าโฮเมอร์ (Homer) ก็เป็นนักขับลำนำชั้นยอดคนหนึ่งของกรีก ใคร ๆ ก็รักน้ำเสียงการเล่านิทานของเขา แรกเริ่มเทวตำนานเป็นบทกลอนที่ท่องจำกันมาเป็นรุ่น ๆ ต่อมามีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เราจึงไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้แต่งตำนานเทพเจ้า บ้างก็ว่า โฮเมอร์ เป็นผู้แต่ง อีเลียด (Iliad) บ้างก็ว่าแค่รวบรวม บ้างก็ว่ากวีกรีกนาม เฮซิออด (Hesiod) แต่ง ส่วน โอวิด (Ovid) กวีโรมก็เล่าถึงเทวตำนานแต่ใช้ชื่อตัวละครต่างกัน เล่มของโอวิดจะเล่าได้พิสดารกว่าของนักเขียนคนอื่น

เทพเจ้ากรีก-โรมัน แห่งยอดเขาโอลิมปัส





เทพโอลิมปัส


เทพโอลิมปัส (The Olympians, Major gods) เป็นเทพที่อาศัยบนยอดเขาโอลิมปัส (Olympus) มีทั้งหมด 12 องค์ แต่ถ้านับอย่างถี่ถ้วนจะมีทั้งสิ้น 16 องค์ ดังนี้

1. ซุส (Zeus) เป็นราชาของบรรดาเทพเจ้าทั้งหลายและเหล่ามนุษย์บนโลก ซีอูสมีอาวุธเป็น Thunderbolt (สายฟ้า) เทพซีอูสมีพี่น้องซึ่งเป็นเทพปกครองโลกร่วมกัน 5 องค์ ได้แก่ เทพโพไซดอน เทพีดีมิเทอร์ เทพีเฮร่า เทพฮาเดส และเทพีเฮสเตีย

2. โพไซดอน (Poseidon) เทพเจ้าแห่งท้องทะเล สัญลักษณ์ของพระองค์คือ “สามง่าม” หรือ “ตรีศูล” ที่สามารถแหวกน้ำทะเลและทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้

3. ดิมิเทอร์ (Demeter) เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรรม การเก็บเกี่ยว

4. เฮรา (Hera) ราชินีแห่งสวรรค์ เป็นทั้งน้องสาวของซีอูสและเป็นภรรยาด้วย เฮร่าเป็นเทพีแห่งการให้กำเนิดทารก การสมรส และสตรี สัตว์ประจำพระองค์คือนกยูง

5. เฮสเทีย (Hestia) เทพีพรมจรรย์แห่งการครองเรือน เทพแห่งครอบครัว ในฐานะของเทพีผู้รักษาบ้าน พระนางเป็นผู้ที่สร้างบ้านขึ้นเป็นคนแรก วิหารของพระนางอยู่ที่กรุงโรม ซึ่งจะได้รับการบวงสรวงจากสาวพรหมจารี พระนางมีสัญลักษณ์เป็นไฟนิรันดร

6. เอรีส (Ares) เทพแห่งสงคราม บุตรของ ซูส กับ เฮร่า สัตว์ประจำพระองค์คือเหยี่ยวและสุนัขมังกรไฟ (บางตำราว่าเป็นนกแร้ง)

7. อพอลโล (Apollo) เทพเจ้าแห่งการทำนาย กีฬา การรักษาโรคภัย การดนตรี และ เป็นเทพแห่งพระอาทิตย์ เป็นบุตรแห่ง ซีอุส และ เทพีลีโต้ (Leto) มีน้องสาวฝาแฝดชื่อ อาร์ทามิส (Artemis) อะพอลโล่มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คือ ต้นลอเรล Laurel สัตว์ศักดิ์สิทธิ์คือนกกาเหว่าและห่าน เครื่องดนตรีประจำพระองค์คือพิณ วิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์อยู่ที่เดลฟี่ Delphi ซึ่งที่นั่นจะมีนักบวชคอยบอกคำทำนายของพระองค์ให้แก่ประชาชนที่มาสักการบูชา

8. อาร์เทมีส (Artemis) เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ เป็นบุตรีของซูสและ เทพีลีโต้ เป็นน้องสาวแฝดของอะพอลโล่ พระองค์เป็นเทพีพรหมจรรย์องค์หนึ่งใน 3 องค์ ภาพที่ผู้คนเห็นอยู่เสมอๆ คือพระองค์จะถือธนูและศร มีสุนัขติดตาม สวมกระโปรงสั้น บางครั้งอาจเห็นเธออยู่บนรถศึกเทียมด้วยกวางขาว

9. เฮอร์มีส (Hermes) เทพแห่งการค้า การโจรกรรม และผู้ส่งสารของเหล่าทวยเทพ เป็นบุตรของ ซูส กับ มีอา พระองค์มักจะปรากฏกายในลักษณะสวมหมวกขอบกว้าง สวมรองเท้ามีปีก ถือคทาที่มีงูพัน

10. อะธีนา (Athena) เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และศิลปศาสตร์ทุกแขนงของกรีกรวมถึงศิลปะการต่อสู้ด้วย ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์คือต้นมะกอก

เทพีอธีน่า เป็นผู้ที่มอบมะกอกให้กับมนุษย์เป็นองค์แรก ทำให้เมือง Athens ได้ใช้ชื่อของพระองค์เป็นชื่อเมืองเพื่อเป็นเกียรติ

11. อโฟรไดท์ (Aphrodite) เทพีแห่งความรักและความงาม เป็นบุตรีของ ซูส กับ เทพีไดโอนี่ (บางตำราว่าเกิดจากฟองคลื่น) สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเธอได้แก่นกกระจอก นกนางแอ่น ห่าน และเต่า ส่วนดอกไม้และผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระนางได้แก่กุหลาบ Myrtle และแอปเปิล กล่าวกันว่าพระนางเป็นเทพีผู้คุ้มครองเหล่าโสเภณีด้วย

12. เฮฟเฟตัส (Hephaestus) เทพแห่งไฟ โลหะ และการช่าง เป็นบุตรของ ซูส กับ เฮร่า (บางตำราว่าเป็นบุตรของ Hera ผู้เดียว) พระองค์เป็นเทพที่พิการและอัปลักษณ์

13. ไดโอไนซัส (Dionysus) เทพแห่งไวน์ การทำไวน์ และการเก็บเกี่ยวผลไม้ เป็นเทพองค์ล่าสุดที่ขึ้นไปอยู่บนโอลิมปัส

14. เพอร์เซโฟเน (Persephone) เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ เป็นบุตรีแห่ง ซูส และ ดีมิเทอร์

15. อีรอส (Eros) กามเทพ รู้จักกันดีในภาษาโรมันว่า คิวปิด Cupid เป็นบุตรแห่งเทพีความรัก อะโฟร์ไดตี้ และ เทพการศึกสงคราม เอเรส

16. เฮเดส (Hades) เทพแห่งใต้พิภพยมโลก และเป็นเทพดูแลอัญมณีใต้ดิน ชาวกรีกบูชาพระองค์ก่อนเสมอที่จะลงมือทำเหมืองแร่

ปัจจุบันได้จัดให้มีแค่ 12 องค์ เพราะ ตามตำราบางเล่มบอกไว้ว่าเทพรุ่นที่ 3 มีแค่ 12 องค์